ผมมีแนวคิดนึง เชื่อว่า "เป็นแนวคิดที่เปลี่ยนโลก"เลยล่ะครับ กรุณาวาง กฎหมาย ศาสนา ความเชื่อไว้ข้างหลัง แล้วอ่านให้ละเอียด

เอาเป็นว่าก่อนอ่าน บทความนี้ กรุณานะครับ ตัดเรื่อง คุณธรรม จริยธรรม ออกไปก่อนนะครับ   ไม่มีคำว่าา สูง ต่ำ เลว ดี กรุณาตัดออกไปก่อนเลย
คืออย่างนี้ครับ ผมสังเกตุว่ามนุษย์นั้น มี ความแตกต่างกันมากกกกก ในเกือบทุกๆอย่าง เท่าที่ผมสังเกตุน่ะครับ

เช่น    บางคนชอบกินผัก ในขณะที่บางคนเกลียด

         บางคนชอบ สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า ในขณะที่บางคนเกลียด

         บางคนชอบเล่นการพนัน ในขณะที่บางคนไม่ชอบ ประมาณว่า มันหนุกตรงไหน (ฟะ)

         บางคนชอบสันโดษ  ในขณะที่ บางคนชอบสังคม

         บางคนชอบน้ำหอม ในขระที่บางคนเหม็นน้ำหอม

         บางคนเกิดมาแพ้นู่น แพ้นี่ เช่น อาหาร อากาศ  บางคนเกิดมาไม่เคยแพ้อะไรเลย

         บางคนเป็นคนขี้เกียจ ในขณะที่บางคนขยันเว่อร์วังอลังการ

         บางคนชอบเรื่อง sex (sexจัดนั่นแหล่ะ) ในขณะที่บางคนก็เฉยๆไม่ค่อยมีอารมณ์ในเรื่องทำนองนี้เท่าไร

         บางคนชอบออกกำลัง/เล่นกีฬา  ในขณะที่บางคนไม่ชอบ

         บางคนเป็นหนอนหนังสือ   บางคนเกลียดการอ่านหนังสือ

         บางคนชอบศิลปะเกลียดคณิต   บางคนชอบคณิตเกลียดศิลปะ

         บางคนชอบทำตัวกร่าง/อันธพาล  ในขณะที่บางคนขี้ป๊อด/หงอ

         บางคนใจร้อน  บางคนใจเย็น

         บางคนชอบรสหวาน  บางคนชอบรสเค็ม  บางคนชอบรสจืด

         บางคนเป็นคนชั่ว  บางคนเป็นคนมีคุณธรรม

          bla   bla    bla   อื่นๆ อีกมากมายล้านอย่าง เกินกว่าที่ผมจะนึกออก

ทีนี้ คำถามคือ ผมมาพิมบอกทำไม  คืองี้ครับ ผมกำลังสงสัยว่า  คุณเคยสงสัยมั๊ยว่า โลกของเรารณรงค์เรื่องการให้การยอมรับในเพศที่ 3 (ตุ๊ด เกย์ กระเทย ไบ ทอม ดี้ สุดแท้แต่จะเรียก) และรณรงค์ให้เลิกเหยียดผิว ซึ่งทั้ง 2 เรื่องนี้ คุณสังเกตุเห็นอะไรมั๊ย

คือเค้าเกิดมาเป็นแบบนั้นเองไง มันบังคับกันไม่ได้ ถูกมั๊ยครับ
ถ้าคุณเป็นเกย์ คุณอาจแอ๊บแมนได้  หรือ ถ้าคุณเป็นทอม คุณอาจแอ๊ป ญ ได้ แต่สุดท้ายยังไงคุณก็เป็นอยู่ดีอ่ะ  ไอ้ที่แอ๊ปมันแค่แสดงออกไง ถูกมะครับ
เพียงแต่การที่เป็นเพศที่ 3 กะการที่ผิวดำ มันไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนไง

ทีนี้ (เข้าประเด็นสักทีนะครับ 5555++) ผมก็มองว่า ถ้าเรามองย้อนกลับไปเทียบกับเรื่องตัวอย่างด้านบน

คือผมก็มองว่า เค้าก็เกิดมาแบบนั้นเหมือนกัน มันบังคับกันไม่ได้ เพียงแต่ เรื่องบางเรื่องมันเดือดร้อนผู้อื่น ก็เลยต้องมีกฎหมาย/จริยธรรมมากำกับ

เช่น  คนที่ชอบเลนการพนัน คือเค้าก็เกิดมาเป็นแบบนี้ จะบังคับไม่ได้ เพียงแต่ มันทำให้หมดตัว ตัวเอง+ครอบครัวเดือดร้อน
ซึ่งสุดท้ายก็ต้องเลิกเล่น ถามว่าเลิกเล่นได้ (ก็เหมือนตุ๊ดแอ๊ปแมนน่ะครับ) แต่เลิกชอบได้มั๊ย ?????

ฉันใดก็ฉันนั้น คนที่เกิดมาชอบดื่มแอลกอฮอล หรือ สูบบุหรี่ คือ เค้าก็เกิดมาเป็นแบบนี้
บางครั้งบางคน อาจเลิกได้ (เพราะกลัวตาย) (ก็เหมือนกับ ตุ๊ดแอ๊ปแมนไง) แต่เลิกชอบได้มั๊ย ????

บางคนเป็นคนขยัน คนส่วนใหญ่ก็ชื่นชม เป็นความดี แต่ผมมองว่า เค้าเป็นของเค้าแบบนั้นเอง
เพราะคนขยันมันก็ย่อมเกลียดการขี้เกียจอยู่แล้ว  เช่นกัน ก็อย่ามองว่า ความขี้เกียจเป็นความเลว
(บางครั้งขี้เกียจจนไม่มีจะdak) ก็เลยต้องมาทำงานขยันหาเงิน (ก็เหมือนกับตุ๊ดแอ๊ปแมนไง) ขยันเพราะความจำเป็น ลึกๆก็ขี้เกียจอยู่ดี

บางคน โกหก กะล่อน  ปลาไหล 18มงกุฎ เป็นนิสัย คือมันก็เป็นความเลวนั่นแหล่ะ เพียงแต่คือเค้าเป็นโดยสันดานอยู่แล้ว
คือเกิดมาก็เป็นแบบบนี้ไง  บางครั้งอาจซื่อตรงได้ (แต่ก็เป็นเพียงการแอ๊ป)
ซึ่งถ้าคุณใช้การหลอกลวงทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์  มันก็ต้องถูกบทลงโทษทางกฎหมาย แต่นั่นก็เป็นอีกเรื่องนึง
เพราะฉะนนั้น คนซื่อสัตย์ ก็ถือเป็นความดี แต่คือ เค้าก็เป็นของเค้าแบบนั้น คือจะให้คนซื่อสัตย์โกหก มันก็ไม่อยากทำ
(ทำได้แต่มันก็คือ การแอ๊ปนั่นแหล่ะ) พูดไงดีอ่ะ ถึงคนซื่อสัตย์จะเป็นคนดี แต่คนที่ซื่อสัตย์เค้าก็ต้องทำแบบนี้อยู่แล้ว
ไม่ว่าความซื่อสัตย์จะเป็นความดีหรือไม่ก็ตาม

ทีนี้ก็มาถึงเรื่องใหญ่ๆ เช่น พวก อันธพาล ชอบความรุนแรง ชอบกร่าง ชอบทำร้ายผู้อื่น เช่น ชอบทำร้ายร่างกาย ฆ่า  ข่มขืน
ซึ่งแน่นอนว่า เหล่านี้เป็นความเลว แต่ผมว่าคนเหล่านี้ คือมันก็เป็นของมันเองน่ะครับ ซึ่งตรงข้ามกับ
คนที่มีจิตใจอ่อนโยน แม้แต่สัตว์ก็ไม่กล้าทำร้ายมัน

เด๋วไว้มาต่อนะครับ  มันยังเรียบเรียงไม่ค่อยถูก

ขอบคุณที่ทนอ่านนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่